วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2553

ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ

ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ เป็นสถานที่เพาะพันธุ์จระเข้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นแห่งแรกของโลกที่มีการเพาะเลี้ยงเพื่อขยายพันธุ์จระเข้ ที่ทันสมัยที่สุด โดยนายอุทัย ยังประภากร (นายหยาง ไห่ ฉวน) มีการเพาะพันธุ์จระเข้ทุกสายพันธุ์ที่มีอยู่ในโลกนี้ โดยมีจำนวนจระเข้ในปัจจุบันเกือบถึง 80,000 ตัว ขนาดที่มีตั้งแต่ความยาวไม่เกินหนึ่งฟุต จนถึง 6 เมตร โดยเฉพาะจระเข้ขนาดยักษ์ความยาวประมาณ 5 – 6 เมตร นั้น มีจำนวนถึง 5,000 ตัว วึ่งเป็นสิ่งที่หาชมได้ยากจากที่อื่น และในจำนวนนี้มีจระเข้พันธุ์ผสมระหว่างจระเข้น้ำจืดและน้ำเค็ม ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีชื่อว่า “เจ้าใหญ่” โดยได้การรับรองจาก กินเนสบุ๊ค ออฟ เรคคอร์ด ว่าเป็นจระเข้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยขนาดความยาวเกือบ 6 เมตร น้ำหนักตัว 1114.27 กิโลกรัม ในปัจจุบันมีอายุถึง 28 ปี

ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ เป็นสถานที่เพาะพันธุ์จระเข้ที่มีกิจกรรมการเพาะเลี้ยงเพื่อการอุตสาหกรรมที่ครบวงจรที่สุด ตั้งแต่การเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ , การนำผลผลิตมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆเช่น นำหนังที่ได้จากจระเข้มาฟอกและผลิตเป็นกระเป๋า , เข็มขัด , พวงกุญแจ , รองเท้า และอื่นๆอีกมากมาย รวมทั้งเนื้อของจระเข้ก็สามารถนำมาปรุงเป็นอาหารต่างๆ เช่น ซุปจระเข้ , เนื้อแห้ง , เนื้อบรรจุกระป๋อง ซึ่งถือว่าเนื้อจระเข้นี้เป็นอาหารบำรุงร่างกายดีเยี่ยมชนิดหนึ่ง
ภายในฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ ยังมีกิจกรรมเพื่อการท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจมากมายหลายชนิด เช่น การแสดงการจับจระเข้ด้วยมือเปล่า , การต่อสู้กับจระเข้ , การนำศรีษะของผู้แสดงเข้าไปในปากจระเข้ , การให้อาหารจระเข้ด้วยตนเองของนักท่องเที่ยว , การถ่ายรูปกับจระเข้เป็นๆ และจระเข้สต๊าฟขนาดใหญ่ พร้อมทั้งยังมีการแสดงของช้างแสนรู้ที่ได้รับการฝึกสอนมาเป็นอย่างดี , การแสดงช้างวาดรูป , ช้างขับรถสามล้อ , ช้างโยนห่วง , ช้างเก็บของ , ช้างเต้นรำ , การนั่งช้างเพื่อชมทัศนียภาพภายในฟาร์มจระเข้ฯ , การนั่งรถไฟเล็ก , รถม้า , สนามยิงปืน นอกจากนี้ยังมีสวนสัตว์ที่ประกอบไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิดเกือบทั่วโลก ให้ชมและศึกษาอย่างไกล้ชิด อีกทั้งยังสามารถถ่ายรูปกับสัตว์ต่างๆได้ เช่น เสือ ,ช้าง, อูฐ, งูเหลือมขนาดยักษ์ , เสือและสุนัขอยู่ร่วมกรงเดียวกัน เป็นต้น
ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ เป็นสถานที่เพียงแห่งเดียวที่จะสามารถศึกษาวงจรชีวิตของจระเข้ได้อย่างละเอียดทุกขั้นตอน นับตั้งแต่การฟักไข่ด้วยวิธีธรรมชาติและการใช้ห้องฟักไข่ที่ทันสมัยที่สุด , การอนุบาลลูกจระเข้แรกเกิด ไปจนถึงระยะการเป็นพ่อแม่พันธุ์ โดยที่ผู้สนใจไม่สามารถจะศึกษาหาข้อมูลจากที่อื่นได้เลยนอกจากที่นี่ อีกทั้งยังมีความแปลกประหลาดของจระเข้ที่ไม่สามารถหาชมได้จากที่อื่น เช่น จระเข้สีทอง , จระเข้เผือก , จระเข้ 5 ขา , จระเข้ 6 ขา , จระเข้ไม่มีตา , จระเข้ไม่มีหาง , จระเข้หลังค่อม ฯลฯ
ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ ยังได้เคยต้อนรับอาคันตุกะระดับสำคัญๆ จากต่างประเทศอยู่เนืองๆ ซึ่งเป็นราชอาคันตุกะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ตลอดทั้งแขกสำคัญๆ ของรัฐบาลไทย เช่น ให้การต้อนรับการเข้าเยี่ยมชมของ ฯพณฯ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณะรัฐประชาชนจีน นายหยาง ซ่าง คุน , ฯพณฯ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณะรัฐประชาชนจีน นายหลี่ เชี่ยน เหมียน และ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณะรัฐประชาชนจีน นายหลี่ เผิง พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีของจีน ทุกยุคทุกสมัยก็เคยเดินทางมาเยี่ยมชมฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ ด้วยเช่นกัน จึงนับได้ว่าฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ เปรียบเสมือนเป็นสถานที่ต้อนรับที่สำคัญที่หนึ่งของประเทศไทย ซึ่งเมื่อผู้ใดก็ตามที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยจะต้องเข้าเยี่ยมชมกิจการฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ ที่ใหญ่ที่สุดในโลกให้ได้
ดังนั้น หากท่านต้องการที่ชมความยิ่งใหญ่ของการเพาะเลี้ยงจระเข้ ต้องการศึกษาด้านชีววิทยาของจระเข้ ต้องการเห็นความแปลกประหลาดของจระเข้ ต้องการพบความสนุกสนานตื่นเต้นของการแสดง ต้องการสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจอันสงบร่มรื่น ท่านก็ไม่ควรพลาดโอกาสในการเข้าชมฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553

พิพิทธภัณฑ์ช้างเอราวัณ

สถานที่: Erawan Museum
ที่ตั้ง: ถนนสุขุมวิท ขาเข้าจังหวัดสมุทรปราการ
เวลาทำการ: 8 นาฬิกา - 18 นาฬิกา ค่าบัตรเข้าชม: ผู้ใหญ่ 150 บาท, เด็ก 50 บาท 50 บาท สำหรับค่าผ่านประตูโดยไม่เข้าชมภายในตัวพิพิธภัณฑ์
เลื่อนลงเพื่อดูอัลบั้มภาพและแผนที่ทางอากาศ
พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 12 ไร่ ของบริษัท ธนบุรีประกอบยนต์ จำกัด ตำบลบางเมืองใหม่ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างจากแรงบันดาลใจ และความคิดของ คุณเล็ก วิริยะพันธ์ ผู้สร้างเมืองโบราณ จ.สมุทรปราการ และปราสาทสัจธรรม เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อให้เป็นสถานที่เก็บรักษาศิลปวัตถุ มรดกทางวัฒนธรรมด้านต่าง ๆ และเพื่อสืบสานอนุรักษ์งานศิลป์ไทยให้คงอยู่สืบชั่วลูกชั่วหลานสืบไป ช้างเอราวัณหรือช้างสามเศียร เป็นประติมากรรมลอยตัวด้วยวิธีเคาะมือแห่งแรกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำจากโลหะทองแดง แผ่นเล็กสุดขนาดเท่าฝ่ามือนำมาเรียงต่อกันด้วยความประณีตนับแสนชิ้น ตัวช้างรวมอาคารมีความสูง 43.60 เมตร (หรือสูงขนาดตึก14-17ชั้นโดยประมาณ) อาคารพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ ส่วนบนของตัวช้าง เฉพาะส่วนหัวมีน้ำหนักประมาณ 100 ตัน ลำตัวช้างหนัก 150 ตัน สูง 29 เมตร กว้าง 12 เมตร และยาว 39 เมตร ตัวช้างออกแบบให้เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงวัตถุมีค่า เช่น ภาพวาดสีฝุ่นรูปจักรวาล พระพุทธรูปปางลีลา บริเวณท้องช้างปูด้วยไม้มะเกลือสีออกดำ ส่วนล่างของตัวช้าง เป็นฐาน โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก อาคารศาลามีความสูง 14.60 เมตร กระจายน้ำหนักตัวช้างด้วยคานวงแหวนรอบนอกและรอบในบนอาคาร ถ่ายน้ำหนักลงเสาแปดเสาภายนอกและสี่เสาภายในอาคารศาลาการตกแต่งภายในเป็นการ ผสมผสานศิลปะหลากหลายรูปแบบ เช่น การใช้กระจกสีแบบศิลปะตะวันตก, เครื่องเบญจรงค์สลับลวดลายสอดสี, การดุนโลหะบนแผ่นดีบุกของช่างเมืองนครศรีธรรมราช และรูปปั้นโบราณชนิดต่าง ๆ อาทิ คนธรรพ์บรรเลงดนตรี รูปพญานาค ของช่างเมืองเพชร ส่วนชั้นใต้ดินที่เรียกว่า “ชั้นบาดาล” เป็นที่จัดแสดงนิทรรศการและโบราณวัตถุจำนวนมาก อาทิ พระพุทธรูป เทวรูปสมัยต่าง ๆ และเครื่องลายครามของจีน ระเบียงรอบนอกตัวอาคารประกอบด้วยซุ้มแปดซุ้ม รอบพิพิธภัณฑ์เป็นอุทยานพรรณไม้ในวรรณคดี และพันธุ์ไม้หายากจากทุกภูมิภาคของประเทศ มีงานประติมากรรมลอยตัวเรื่อง รามเกียรติ์ วางเรียงรายล้อมรอบอาคาร
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2371 3135-6 โทรสาร. 0 2380 0304

วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง

ตลาดน้ำบางผึ้ง เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวของตำบลบางน้ำผึ้ง อำเภอพระประแดง จังหวัด
สมุทรปราการ ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยความร่วมมือของชาวบ้านร่วมกับผู้นำท้องถิ่น และ อบต.บางน้ำผึ้ง เพื่อส่งเสริมการท่อ
เที่ยวเชิงอนุรักษ์และสนับสนุนให้ชาวบ้านมีรายได้จากการนำผลผลิตในท้องถิ่นของตนเองมาจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้

้ และก่อให้เกิดการสร้างงานภายในชุมชน ส่งผลทำให้ชุมชนเข้มแข็งมากขึ้นจะมีเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ เริ่มเปิด

ตลาดประมาณแปดโมงเช้าเป็นต้นไปจนถึงเย็น ๆ เป็นตลาดน้ำที่ใกล้กรุงเทพ ซึ่งคุณจะเห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านริมคลอง

พ่อค้าแม่ค้าหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งถือว่าเป็นตลาดน้ำเพื่อสุขภาพอีกแห่งหนึ่ง เพราะไม่ว่าใครได้มาเที่ยวที่

ี่ตลาดน้ำบางผึ้ง นอกจากจะได้สัมผัสวิธีชีวิตริมน้ำของชาวพระประแดงแล้ว ก็ยังได้สัมผัสกับกิจกรรมทั้งในเรื่องของ

สุขภาพกาย และสุขภาพใจอีกด้วย เพราะว่าพ่อค้า แม่ค้า ที่นี่นอกจากจะเอาใจใส่เรื่องของคุณภาพของสินค้าแล้ว ก็ยัง

ไม่ลืมที่จะใส่ภูมิปัญญาไทยๆ อย่างอาทิ สมุนไพรลงไปในสินค้า เมื่อบวกกับมิตรจิต มิตรใจ โอมอ้อมอารีของคนใน

ชุมชนตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ก็ถือเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของตลาดน้ำแห่งนี้